วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559

One Night Stand (CUT)



สิ้นประโยคของซองยอล ริมฝีปากสวยก็ถูกฉกชิงลมหายใจในทันที ปากหยักได้รูปละเมียดลิ้มริมฝีปากคลอเคลียก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานภายในโพรงปากอย่างเร่าร้อนแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนอยู่ในที มือเรียวขยุ้มเสื้อเชิ้ตสีดำของคนตรงหน้าแน่นจนยับย่นราวเป็นการประท้วงให้รู้ว่าตนกำลังจะขาดอากาศหายใจ  ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีนิลถอนจูบออกมาอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ทาบทับริมฝีปากหยักลงบนซอกคอขาว ขบเม้มเบาๆสร้างร่องรอยสีกุหลาบจางๆในทุกพื้นที่ที่สัมผัสผ่าน มือหนาลากสัมผัสไปทั่วร่างบางก่อนจะหยุดลงที่สาบเสื้อ เริ่มแตะมันแล้วปลดออกทีละเม็ดจนสาบเสื้อหลุดออกจากกันและปลดออกพ้นร่างกาย  เผยให้เห็นผิวขาวเนียนปรากฏสู่สายตาเชิญชวนให้ปากหยักแตะสัมผัสสร้างร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของอย่างหลงใหล ซองยอลตัวสั่นเทิ้มอยู่บนเตียงกว้าง สมองขาวโพลนไปหมดทั้งถูกจู่โจมด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทั้งถูกปลุกปั่นให้รู้สึกหวาบหวามไปทั้งร่าง จนเผลอครางเสียงหวานออกมายามที่ชายหนุ่มบนร่างกดจูบฝากรอยไปทั่วแผ่นอกบางไล้วนลงไปถึงหน้าท้องเนียนสวย


กระดุมกางเกงยีนส์ผ้าเนื้อดีถูกปลดออกอย่างใจเย็น ก่อนจะถูกรั้งออกจากเรียวขาสวยตามติดด้วยกางเกงชั้นในสีขาวสะอาด ซองยอลหนีบขาเรียวเข้าหากันด้วยความอาย แต่ทำเช่นนั้นได้ไม่นาน มือหนาก็แยกขาเรียวออกกว้างก่อนจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ตรงกลาง แตะสัมผัสลูบไล้เรียวขาสวยไปมาก่อนจะทาบทับริมฝีปากหยักลงบนต้นขาเนียนเบาๆ ซองยอลสะดุ้งกับสัมผัสนั้นเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มบางๆจากเจ้าของดวงตาสีนิลสนิท มือเรียวขยุ้มผ้าปูที่นอนจนยับยู่เมื่อรับรู้ถึงแรงกดจูบปะปนแรงขบเม้มสร้างร่องรอยไปตามต้นขาขาวสลับไปมาซ้ายขวา สร้างความรู้สึกหวาบหวามที่ซองยอลไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน  ซองยอลสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาแตะสัมผัสที่ส่วนอ่อนไหวกลางกายแล้วรูดรั้งเบาๆก่อนจะถูกครอบครองด้วยโพรงปากร้อน


“ อืออออออออ ”
เผลอตัวส่งเสียงครางหวานออกมา ก่อนจะขบกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางออกไป แต่ทำได้ไม่นานความเสียวซ่านก็เข้าครอบงำเมื่อถูกปรนเปรอความสุขจากชายหนุ่มหน้าหล่ออย่างต่อเนื่อง เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าสวยและตามผิวกายขาว ก่อนจะตัวเกร็งเมื่อปลายทางของความสุขมาถึงปลดปล่อยหยาดรักออกมาเต็มโพรงปากของอีกคนที่กลืนกินทุกหยาดหยดอย่างไม่นึกรังเกียจ ซองยอลหอบหายใจหนักด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะถูกคนบนร่างช่วงชิงลมหายใจอีกครั้ง ดูดดึงริมฝีปากหวานอย่างลุ่มหลง กดจูบไล้ไปตามโครงหน้าสวยอย่างหลงใหล


“ อ่ะ !!!
ซองยอลนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อมีอะไรบางอย่างถูกชำแรกเข้ามาที่ช่องทางด้านหลัง แม้จะแผ่วเบาแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้คนตัวบางไม่น้อย น้ำใสเริ่มคลอหน่วงในดวงตาเมื่อสัมผัสได้ว่าสิ่งที่กำลังรุกล้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้นพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่เริ่มทวีคูณ แต่ภายใต้ความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับสร้างความหวาบหวามเกิดขึ้นประปรายให้เผลอหลุดปากครวญครางออกมาผิวแผ่ว


“ ครั้งแรกใช่ไหม ”
เสียงทุ้มกระซิบถามเบาๆข้างใบหูสวย ซองยอลสบตาคนหน้าหล่อ แก้มเนียนขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความอายกับคำถามนั้น ก่อนจะเบนใบหน้าสวยหนีคนตรงหน้าแทนคำตอบ


“ ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะระวัง ”
เสียงทุ้มกระซิบลงที่ข้างหูอีกครั้ง ซองยอลถอนหายใจโล่งอกเมื่อสัมผัสรุกล้ำเมื่อครู่ถูกถอดถอนออกไป แต่ก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นเมื่อถูกรุกล้ำเข้ามาใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้กลับสร้างความเจ็บปวดมากกว่าหลายเท่านัก เหมือนดั่งร่างจะแหลกแตกสลาย น้ำใสรินไหลออกจากดวงตาคู่สวยอย่างไม่อาจห้ามได้ ริมฝีปากบางขบกัดแน่นจนห้อเลือดเพื่อข่มความเจ็บปวดจนสัมผัสนั้นรุกล้ำเข้ามาจนสุดทางแล้วหยุดนิ่ง

เหมือนคนหน้าหล่อจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น นิ้วเรียวแตะลงรอยแผลบนปากอิ่มลูบไล้เบาๆก่อนจะแนบริมฝีปากหยักลงบนหน้าผากเนียน กดจูบไล่ลงมาตามแก้มขาว ซอกคอหอมละมุนราวกับต้องการปลอบโยนก่อนจะหยุดลงที่ริมฝีปากอิ่มลิ้มชิมรสหวานอย่างมิรู้หน่าย มือหนาแตะสัมผัสไปทั่วกายบางปลุกปั่นอารมณ์ความต้องการของคนใต้ร่างให้ลุกโชน หลังจากมั่นใจแล้วว่าคนในอ้อมกอดร่างกายผ่อนคลายลงแล้ว เอวสอบเริ่มเคลื่อนไหวเป็นจังหวะจากเนิบนาบอ่อนหวานกลายเป็นหนักหน่วงและร้อนแรงมากขึ้น เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ดังปะปนกัน  ซองยอลเผลอตัวจิกเล็บลงบนไหล่หนาเพื่อข่มความรู้สึกตัวเอง ความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลงก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ กลีบปากสวยเผยอออกครวญครางเสียงหวานหูออกมาให้ได้ยิน แต่ก็ถูกลิดรอนเสียงลงไปด้วยริมฝีปากหยักที่ตามมาทาบทับกอบโกยความหอมหวานอย่างมิรู้เบื่อ



ปลายทางแห่งความสุขดำเนินมาถึงอีกครั้ง ซองยอลหอบหายใจหนัก ก่อนจะเกร็งตัวปลดปล่อยหยาดรักออกมาเป็นครั้งที่สองเปรอะเปื้อนหน้าท้องแกร่ง ชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีนิลเร่งจังหวะเอวสอบเพิ่มมากขึ้นก่อนจะเกร็งตัวปลดปล่อยหยาดรักเข้าไปในช่องทางด้านหลัง ซองยอลปรือตามองคนตรงหน้า สัมผัสสุดท้ายที่เขารู้สึกก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียนั้นคือรสจูบแสนหวานที่ชายหนุ่มคนนั้นมอบให้เขาอีกครั้งและอีกครั้ง คนหน้าหล่อแย้มยิ้มออกมาเมื่อเห็นซองยอลผล็อยหลับไป ถอดถอนตัวตนออกมา ก่อนจะโอบร่างซองยอลเข้ามาไว้ในอ้อมกอดปิดเปลือกตาลงเข้าสู่นิทราตามซองยอลไป


กลับไปอ่านเนื้อเรื่องเต็มได้ที่ >>> https://my.dek-d.com/inspirit_l_n/writer/view.php?id=1537374






วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

Secrecy Part 3



Part 3

 

ซองยอลนั่งนิ่งร่างกายสั่นสะอื้นมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำใสๆไหลรินออกจากดวงตาคู่สวยโดยไม่มีทีท่าที่จะหยุด มือที่ถือรูปใบนั้นสั่นเทามากขึ้นๆจนรูปปลิวหลุดตกจากมือ ซองยอลพยายามนึกถึงเรื่องราวทุกอย่าง แค่เพียงเห็นดวงหน้าของผู้ชายคนนั้นในภาพก็เหมือนมีก้อนหินจำนวนมากมายหล่นทับลงมาที่ร่าง มันช่างหนักอึ้งและแสนจะทรมาณ หน้าอกข้างซ้ายเจ็บปวดรวดร้าวราวกับมีคมมีดนับพันทิ่มแทงเข้าใส่ น้ำตาใสพรั่งพรูออกมาดั่งสายน้ำหลากที่ไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป ขมับด้านซ้ายและด้านขวาเริ่มมีอาการเจ็บปวดจนซองยอลต้องยกมือเรียวทั้งสองข้างขึ้นมากุมเอาไว้ ยิ่งคิดมากเท่าไรศีรษะก็ยิ่งเจ็บปวดบีบรัดแน่นมากขึ้น ภาพต่างๆหลายๆภาพปรากฎขึ้นหมุนเวียนสลับไปมาซ้อนทับในสมองอย่างรวดเร็วและรุนแรง ก่อนจะค่อยๆเริ่มช้าลงๆและปรากฎแจ่มชัดขึ้นทีละภาพๆราวกับเครื่องฉายหนัง

 

" ซองยอล รอนานไหม "

เสียงจากร่างสูงเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง ซองยอลหันมาตามเสียงแล้วยิ้มสดใสให้เขาก่อนจะส่ายหัวปฎิเสธ

 

" งั้นเราไปกันเถอะ วันนี้ฉันอยากกินไอศกรีม "

ซองยอลเอ่ยเสียงใสกับร่างสูง ชายหนุ่มร่างสูงยิ้มอ่อนโยนแกมเอ็นดูตอบกลับมา

 

" ได้สิ แต่ว่า...ฉันมีอะไรจะให้นายช่วยหน่อย " ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยขึ้น

 

" ช่วย? ช่วยอะไรหรอ " ร่างบางตาโตบุ้ยแก้มป่องด้วยความสงสัย

 

" ฉันจะซื้อของให้เพื่อน อยากจะให้นายลองแทนให้หน่อย "

 

" หืม...ซื้ออะไรหรอ เอาสิ ฉันลองให้ "  ซองยอลเอ่ย

 

" งั้นยืมมือหน่อย "

ชายหนุ่มร่างสูงยื่นมือมาตรงหน้า ซองยอลจึงส่งมือเรียวข้างขวามาตรงหน้าแต่ชายหนุ่มกลับเอื้อมมือไปคว้ามือข้างซ้ายของร่างบางขึ้นมาแทนก่อนจะสวมแหวนเงินเกลี้ยงลงบนนิ้วนางของซองยอล

 

" ว้าว พอดีเลย "  ร่างสูงยิ้มอย่างพอใจ

 

" แหวน? นี่นายซื้อแหวนให้เพื่อนหรอ "  ซองยอลถามด้วยความงุนงง

 

" เปล่า ฉันซื้อให้นายต่างหาก วันนี้วันครบรอบของเราไง "

 

" ใช่ที่ไหน วันครบรอบคบกันสองปีของเรามันอีกตั้งสามเดือนต่างหาก "

ซองยอลเอ่ย ดวงตาสวยยังคงมองแหวนบนนิ้วด้วยความพึงพอใจ

" ก็ไม่ใช่วันครบรอบคบกันไง แต่เป็นวันครบรอบสองปีที่ฉันตกหลุมรักนายตั้งแต่แรกเห็นต่างหาก "

 

" นี่นายจำได้ด้วยหรอ "  ซองยอลเอ่ยถามใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข

 

" จำได้สิ ก็นายมาเดินผ่านหน้าให้ฉันใจเต้นรัว ตาโตๆแก้มป่องๆนี่ทำให้ฉันแทบลืมหายใจเลยนะ "

ชายหนุ่มตรงหน้าเอื้อมมือมาหยิกแก้มร่างบางเบาๆเป็นการหยอกเย้า ซองยอลอมยิ้มแก้มขึ้นสีระเรื่อด้วยความขวยเขินกับคำพูดนั้น

 

" อ่ะ ใส่ให้ฉันที "  ร่างสูงยื่นสร้อยที่ร้อยแหวนเงินเกลี้ยงอีกวงไว้ให้กับซองยอล

 

" ทำไมถึงไม่สวมไว้ที่นิ้วล่ะ "  ซองยอลถามอย่างสงสัย

 

" ก็ใส่แบบนี้มันจะได้อยู่ใกล้ๆหัวใจฉันไง "  ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ

 

" เน่ามาก "  

ซองยอลตีแขนร่างสูงด้วยความเขินอาย ก่อนจะเอื้อมมือไปรับสร้อยเส้นนั้นมาแล้วสวมสร้อยให้กับคนตรงหน้า ร่างสูงจึงฉวยจังหวะนั้นโอบร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน

 

" ใส่เสร็จแล้ว แล้วก็ปล่อยได้แล้ว "

ซองยอลเอ่ยกับคนตรงหน้า ร่างสูงระบายยิ้มส่งให้พร้อมส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะโน้มหน้ามาขโมยหอมแก้มซองยอลฟอดใหญ่ ซองยอลแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขิน

" ซองยอล.....ฉันรักนายนะ "

ชายหนุ่มเอ่ยกับซองยอลกระชับคนในวงแขนให้แนบแน่นขึ้น ซองยอลซบหน้าลงกับหน้าอกของคนตรงตรงหน้าใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข

 

ภาพนั้นเริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่ภาพใหม่เริ่มซ้อนทับขึ้นมาอีกภาพ และกระจ่างชัดขึ้นมาแทนที่ ซองยอลกำลังเดินเข้ามาภายในซอยบ้าน ร่างบางพยายามก้าวท้าวให้ยาวขึ้นเพื่อให้ไปถึงตัวบ้านให้เร็วที่สุด เสียงฝีเท้าหนึ่งกำลังก้าวเท้าตามซองยอลใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซองยอลเริ่มรู้สึกกลัวและไม่กล้าแม้จะหันกลับไปมอง ร่างบางทำเพียงสาวเท้าก้าวเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นจนประชิดร่างซองยอลจากทางด้านหลังมือหนาทั้งสองรวบร่างของซองยอลเอาไว้แน่นหนาจนซองยอลขยับหนีไม่ได้แม้แต่น้อย



" อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันกลัวแล้ว "  ซองยอลละล่ำละลักด้วยความกลัว

ร่างด้านหลังที่กำลังกักขังร่างบางไว้โน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงดุๆ

 

" ก็น่ารักขนาดนี้ ไม่ปล้ำก็เสียดายแย่สิ "

 

ซองยอลชะงักไปกับเสียงที่แสนคุ้นหูนั้น ร่างสูงด้านหลังปล่อยร่างของซองยอลให้เป็นอิสระก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ซองยอลหันกลับมามองคนด้านหลังเมื่อเห็นชัดว่าเป็นใคร ร่างบางก็ฟาดมือเรียวใส่เขาไปสองสามทีติดกัน

 

" จะบ้าหรอ เล่นอะไรเนี่ย ตกใจแทบตาย "

 

" โอ๋ๆขวัญเอ๋ยขวัญมา "  ร่างสูงยิ้มให้เอื้อมมือมาลูบผมสีน้ำตาลของคนร่างบางอย่างปลอบโยน

" ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย"  ซองยอลหน้ามุ่ยด้วยความงอนที่ถูกแกล้ง

 

" ขอโทษที่ทำให้กลัว จะไม่ทำอีกแล้ว " ร่างสูงอ้อน ซองยอลพยักหน้ารับรู้

 

" วันหลังถ้ากลับบ้านดึกต้องบอกฉันนะ ฉันจะมาส่ง มันอันตราย "

 

ภาพเมื่อครู่จางหายไปก่อนภาพใหม่เริ่มชัดขึ้นๆซ้อนทับภาพเดิมอีกครั้ง ซองยอลกำลังเดินแกมวิ่งออกมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร่างบางสาวเท้ายาวๆอย่างรวดเร็ว โดยมีชายหนุ่มร่างสูงวิ่งตามมาแล้วดึงแขนเรียวให้หยุดไว้

 

" ซองยอล......ฟังฉันก่อนได้ไหม" ร่างสูงเอ่ยกับเขา

 

“ ไม่ !!! ปล่อยฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องฟังอะไรอีกแล้ว ”

ซองยอลพยายามสะบัดแขนเรียวออกจากการเกาะกุม ดวงตาสวยเริ่มมีน้ำตาคลอที่หางตา

 

" ซองยอล...ฉันรักนายคนเดียว ฉันกับซองจง เราไม่ได้มีอะไรกัน”

 

“ ไม่มีอะไรงั้นหรอ นายให้เขาไปอยู่ด้วยที่คอนโดนาย ดูแลเขาทุกอย่าง แล้วก็มากอดกันกลมกลางร้านอาหารทั้งๆที่ผิดนัดฉันนะหรอ นี่หรอ ไม่มีอะไรกัน”

ซองยอลเริ่มเสียงดังด้วยความโกรธ น้ำตาไหลอาบใบหน้าสวยด้วยความเจ็บปวด

 

“ เรื่องคอนโด ฉันก็บอกนายแล้วไงซองยอลว่าซองจงกำลังลำบากเขาไม่มีที่ไป “

 

“ อ๋อ คงลำบากมากเลยสินะ ถึงต้องมากอดกับแฟนคนอื่นกลางร้านขนาดนั้น ”

 

“ ซองจงเขาทะเลาะกับแฟนเขา เขาร้องไห้ ฉันก็เลย....”  ร่างสูงพยายามอธิบายให้ฟัง

 

“ ก็เลยกอดปลอบ เหอะ !!! ปลอบกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะ ปลอบถึงเตียงเลยไหม”

ซองยอลพูดด้วยอารมณ์โมโห

 

“ ซองยอล !!! ทำไมนายถึงได้งี่เง่าไม่มีเหตุผลขนาดนี้” ร่างสูงเริ่มโกรธ เสียงเริ่มดังขึ้น

 

“ ใช่ ฉันมันงี่เง่าไม่มีเหตุผล ถ้าอย่างงั้น จะทนคบคนอย่างฉันทำไมล่ะ งั้นเราก็เลิกกันเถอะ”

ซองยอลเอ่ยออกมาด้วยความโมโห

 

“ เลิกกัน นี่นายพูดคำนี้ออกมาง่ายๆเลยหรอ ที่ผ่านมาระหว่างเรามันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหม”

ร่างสูงเอ่ยด้วยความเจ็บปวด ดวงตาสั่นไหวกับคำพูดที่ได้ยิน ซองยอลสบตาร่างสูงแม้จะหวั่นไหวกับสายตาและคำพูดนั้น แต่ด้วยทิฐิและความโกรธที่ยังคุกรุ่นอยู่ในใจซองยอลจึงเอ่ยคำตัดรอนไปอีกครั้ง

 

“ ก็แค่เลิกกัน ในเมื่อเราเดินต่อไปด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว เราก็จบกันแค่นี้เถอะ ปล่อยฉัน”

ซองยอลเอ่ยพยายามสะบัดแขนตัวเองอีกครั้ง แต่ร่างสูงไม่ยินยอมกลับคว้าร่างบางเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด

"ซองยอล..............อย่าทำแบบนี้ ขอร้อง......."

 

" ซองยอล............เราอย่าเลิกกันเลยนะ"

 

" ปล่อยฉัน ปล่อย "

ซองยอลดิ้นอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง แม้จะดิ้นด้วยเรี่ยวแรงที่มีมากแค่ไหน ร่างสูงก็ยังคงกอดร่างบางไว้แนบแน่นไม่ยอมปล่อย

 

" ฉันรักนายนะ รักนายคนเดียว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนาย "

ร่างสูงเอ่ยเสียงสั่น น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบหน้า

 

" แต่ฉัน.....ไม่ได้รักนายอีกแล้ว ตอนนี้ วินาทีนี้ ความรู้สึกฉันมีแต่ความเกลียด เกลียด นายได้ยินไหม !!!! "

 

ซองยอลเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บปวดตรงข้ามกับสิ่งที่ได้เอ่ยออกไป ไม่รู้ว่าทำไม ซองยอลถึงได้กล้าเอ่ยคำพูดนั้นออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าเขาต้องการให้คนตรงหน้าได้เจ็บปวดบ้างเหมือนที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้ ร่างสูงนิ่งอึ้งกับคำตอบที่เขาได้รับ ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดที่โอบร่างบางเอาไว้ มือสองข้างตกลงแนบตัว ร่างชาไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะกับคำพูดคำนั้น

 

ซองยอลได้โอกาสนั้น หมุนตัวเดินหนีออกไปทันที ก่อนจะสาวเท้าเรียวข้ามถนนในทันที ด้วยอารมณ์ที่อยากจะหนีร่างสูงออกไปให้ไกลมากที่สุด ซองยอลจึงข้ามถนนโดยไม่มองรถอย่างรอบคอบ เมื่อร่างบางก้าวข้ามไปจนเกือบถึงกลางถนน ก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง ร่างสุงที่วิ่งตามซองยอลมาติดๆมองเห็นรถคันนั้น เขาตะโกนเรียกซองยอลเสียงดังลั่น

 

"ซองยอล ระวัง !!!!! "

 

ซองยอลหันมองมาเห็นรถยนต์กำลังพุ่งเข้าหาตนเองแค่เพียงระยะห่างไม่มากก่อนที่รถยนต์จะพุ่งชนร่างเขา ร่างสูงก็วิ่งเข้ามาผลักซองยอลให้พ้นทาง

 

" ซองยอล !!!!"

 

ซองยอลเซไปตามแรงผลักล้มลงไปกับพื้นพ้นจากรัศมีของรถยนต์คันนั้นไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ร่างสูงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ร่างของเขาถูกรถยนต์คันนั้นพุ่งเข้าชนอย่างจังจนร่างลอยเคว้งขึ้นสูงก่อนจะตกลงมากระแทกกับพื้นถนน ซองยอลช็อกกับภาพที่เห็นร่างบางวิ่งเข้าไปหาร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดทันทีแล้วประคองเขาไว้กับอ้อมกอดตัวเอง

 

"ซอง......ยอล นายย......มะ...ไม่เป็นไร....ชะ...ไหม "

ร่างสูงพยายามเอ่ยปากพูดกระท่อนกระแท่น

 

" ฉันไม่เป็นอะไร นายทำแบบนี้ทำไม ทำไม !!! " ซองยอลร้องไห้โฮราวจะขาดใจ

 

" เรา....อย่าเลิกกัน....เล...เลยนะ ซอง...ยอล.............ฉันขอโทษ ฉันนน...รักก...นาย...คนเดียว"

 

" พอแล้ว นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว นายต้องไม่เป็นอะไร ฉันจะพานายไปโรงพยาบาล"

ซองยอลร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน ร่างในอ้อมกอดส่ายศีรษะให้เขา ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือที่สั่นเทาขึ้นมาเช็ดหยาดน้ำตาบนแก้มบางเบาๆ

 

" อย่า....อย่า...ร้องไห้ "

ร่างสูงยิ้มบางๆให้ซองยอล

 

"ซองยอล.............อย่าเกลียดฉัน ......."

 

ร่างสูงเอ่ยคำพูดนั้นเป็นคำสุดท้าย มือที่แตะอยู่ที่แก้มใสเลื่อนลงก่อนจะตกลงมาพร้อมกับเปลือกตาที่ปิดสนิทและร่างทั้งร่างหยุดแน่นิ่งไปพร้อมกับลมหายใจที่หลุดลอยไป ซองยอลกอดร่างท่วมเลือดนั้นไว้แนบกับอก เขย่าร่างนั้นไปมา น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย

 

" ไม่!!!!! นายอย่าทิ้งฉันไป........ฉันไม่โกรธนาย....ไม่เกลียดนายอีกแล้ว นายฟื้นขึ้นมาสิ !!!!! "

 

ภาพนั้นค่อยๆจางและเลือนหายไปอีกครั้ง ก่อนจะมีภาพใหม่เริ่มกระจ่างชัดเข้ามาแทนที่ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ซองยอลนั่งพิงเสาอยู่ภายในงานศพ ร่างบางนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหนมาตั้งแต่ช่วงเช้า ดวงตาเหม่อลอยไม่รับรู้อะไรที่เกิดขึ้นรอบๆตัว ซักพักโฮวอนก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายรูปร่างบอบบางคนหนึ่งที่มีใบหน้าสวยราวกับผู้หญิง โฮวอนคุกเข่าลงข้างๆผู้เป็นน้องชายแล้วเอื้อมมือแตะที่ต้นแขนเบาๆ

 

" ซองยอล กินอะไรหน่อยเถอะ เราไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ "

โฮวอนกล่าวด้วยความเป็นห่วง แต่ซองยอลยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ราวกับหุ่นไม่ได้รับรู้ถึงคำพูดของโฮวอนโดยแม้แต่น้อย

 

" ขอผมอยู่กับพี่ซองยอลนะครับ "

 

ผู้ชายร่างบอบบางเอ่ยกับโฮวอน โฮวอนพยักหน้ารับรู้ก่อนจะค่อยๆลุกยืนแล้วเดินออกไป ผู้ชายหน้าสวยคนนั้นขยับลงมานั่งแทนที่ของโฮวอนเมื่อครู่

 

" พี่ซองยอล ผมขอโทษ เพราะผมแท้ๆ พี่เขาถึง..... "

ร่างบอบบางเอ่ยเบาๆกับซองยอล ก่อนจะหยุดคำพูดไปพร้อมกับร้องไห้สะอื้นออกมา

 

" พี่เขารักพี่ซองยอลคนเดียวนะ เขาไม่เคยคิดอะไรกับผม ถึงแม้ผมจะรักเขาก็ตาม พี่เขาก็แค่สงสารผมที่ผมไม่มีที่ซุกหัวนอน สงสารผมที่ถูกแฟนซ้อม เขาไม่เคยนอกใจพี่เลยซักครั้ง "

 

" ผมขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะผมเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้" ร่างบอบบางกล่าวน้ำตาไหลจนนองไปทั้งใบหน้า

 

ซองยอลยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ ดวงตายังคงเหม่อลอย ชายหนุ่มคนนั้นจึงหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆกล่องหนึ่งวางลงบนพื้นข้างๆร่างของซองยอล

 

" ผมไปเก็บของที่คอนโดพี่เขา ผมเจอของสิ่งนี้ พี่เขาคงเตรียมไว้ให้พี่ซองยอล "

 

ชายหนุ่มหน้าสวยเอ่ยก่อนจะลุกยืนขึ้นแล้วเดินออกมา ภาพนั้นเลือนหายไปอีกครั้งก่อนจะปรากฎภาพใหม่มาซ้อนทับแล้วก็ชัดขึ้นๆทาบทับภาพเก่า ซองยอลกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง ดวงตาสวยดูว่างเปล่าไม่รับรู้อะไร ซักพักร่างบางขยับร่างก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะหัวเตียง ซองยอลค้นหาของในนั้นอยู่ชั่วครู่ก่อนมือเรียวจะหยิบคัตเตอร์เล่มใหญ่ขึ้นมา ดวงตาเลื่อนลอยจ้องสิ่งที่อยู่ในมือแวบนึงก่อนจะเลื่อนคมมีดออกมาแล้วจรดคมมีดนั้นลงที่ข้อมือซ้ายของตนเองกรีดย้ำซ้ำลงอยู่อย่างนั้นจนเลือดไหลออกมาจากบาดแผลเอ่อเต็มที่นอนและพื้นห้อง

 

ภาพนั้นจางหายไปกลับเข้าสู่ปัจจุบัน ซองยอลยังคงนั่งอยู่ข้างกล่องภายในห้องเก็บของในบ้านหลังเก่าของเขา อาการปวดศีรษะเริ่มทุเลาลง ซองยอลกำลังตั้งสติรับกับความทรงจำของช่วงเวลาสามปีที่เคยสูญหายไปเริ่มหวนคืนกลับมา ซองยอลเริ่มรื้อของในลังไม้ใบนั้นอีกครั้ง ซองยอลก็พบแหวนเงินเกลี้ยงของตนเองและสร้อยคล้องแหวนของคนรักคนนั้นอยู่ด้วยกัน ซองยอลกำมันแน่น กลั้นกลืนความเจ็บปวดที่สะท้านอยู่ในอก ก่อนจะวางมันลงเมื่อมองเห็นกล่องใบที่เหมือนกับที่ซองจงวางไว้ให้เขาในงานศพอยู่ในก้นลังไม้นั้น ซองยอลเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมานิ้วเรียวเปิดมันออก ในนั้นมีเพียงพวงกุญแจพวงหนึ่งกับการ์ดสีขาวอีกหนึ่งใบ ซองยอลหยิบพวงกุญแจขึ้นมาดูก่อนจะวางลงไว้ในกล่องเหมือนเดิมแล้วเปลี่ยนมาหยิบการ์ดสีขาวขึ้นมาเปิดออกอ่าน ลายมือแกมหวัดแต่อ่านง่ายปรากฎแก่สายตา ซองยอลค่อยๆเริ่มอ่านมันทีละบรรทัด

 

ซองยอลที่รัก

นายคงแปลกใจว่าฉันเล่นบ้าอะไรถึงให้พวงกุญแจนายในวันครบรอบสามปีของเรา

มันคือพวงกุญแจคอนโดฉันเอง

คือฉันจะพูดยังไงดีล่ะ

ฉันก็แค่อยากจะให้นายมาอยู่กับฉัน

มาใช้ชีวิตร่วมกับฉัน

อยู่ข้างๆฉันไม่ว่าจะยามตื่นหรือยามหลับ

คอยยิ้มให้ฉันเวลากลับถึงบ้าน

หรือส่งเสียงสดใสไม่ให้ฉันรู้สึกเงียบเหงา

นั่งกินข้าวที่ช่วยกันทำจนห้องครัวรกไปหมด

หรือช่วยกันทำความสะอาดบ้านในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

บางครั้งเราอาจจะงอนกันบ้าง

แต่ฉันสัญญาว่าฉันจะเป็นฝ่ายง้อนายก่อนเสมอ

ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ฉันอยากจะทำร่วมกับนายจนกว่าเราจะตายจากกัน

แต่ไม่รู้ว่านายจะตกลงไหม นายจะยอมมาใช้ชีวิตร่วมกับฉันไหม

ผู้ชายโง่ๆอย่างฉันที่ไม่รู้จะใช้วิธีไหนขอให้นายมาอยู่ด้วยกัน

แต่ผู้ชายคนนี้สัญญาได้ว่าจะรักนายเพียงคนเดียวและจะรักนายตลอดไปจนวันตาย

                                                                             รัก

                                                                       คิมมยองซู

 

 

ซองยอลยืนนิ่งอยู่หน้าหลุมศพของคิมมยองซูอยู่เนิ่นนานหลังจากซองยอลกลับจากบ้านหลังเก่ากลับไปพบกับโฮวอนและบอกว่าเขาได้ความทรงจำทั้งสามปีที่สูญหายไปกลับมาแล้ว เมื่อโฮวอนได้รู้ดังนั้นเขาก็หน้าซีดเซียวและกล่าวขอโทษซองยอลไม่หยุดปาก จากที่ซองยอลแทบไม่เคยเห็นพี่ชายของเขาร้องไห้ให้ได้เห็น โฮวอนกลับร้องไห้อย่างหนักด้วยความรู้สึกผิดที่ปกปิดทุกๆอย่างมาถึงสองปี คำพูดมากมายที่อัดอั้นอยู่ในใจของพี่ชายที่ทำทุกอย่างเพื่อน้องชายอย่างเขายังคงก้องอยู่ในหัว และนั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ซองยอลโกรธพี่ชายของเขาไม่ลง

 

" ซองยอล พี่ขอโทษ ที่พี่ปิดบังเรา พี่ทำแบบนั้นเพราะพี่ไม่อยากเสียนายไป " โฮวอนขอโทษเขาด้วยน้ำตา

 

" วันที่พี่เห็นนายกรีดข้อมือจนเลือดนองเต็มไปหมด พี่นึกว่านายจะทิ้งพี่ไปแล้ว แต่นายก็รอดตายอย่างปาฎิหาริย์แต่กลับไม่ยอมฟื้นเป็นเดือนจนพี่แทบหมดหวัง "

 

" แต่แล้วนายก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำที่หายไป หมอบอกว่านายเกิดอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสมองเลยสั่งการไม่ให้จดจำสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดชั่วคราว "

 

 " พี่ก็เลยโกหกว่านายตกบันไดลงมาแล้วก็ย้ายนายไปอยู่ที่อื่นเพื่อไม่ให้เจอกับสภาพเก่าๆ พี่กลัวนายจะกลับมาจำได้แล้วจะฆ่าตัวตายอีกครั้ง "

 

“ พี่รู้ว่าพี่ผิด พี่รู้ว่ามันไม่ยุติธรรมกับมยองซูที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตน พี่ขอโทษนะซองยอล ขอโทษจริงๆ แต่นายต้องสัญญากับพี่นะว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองแบบนั้นอีก “

 

 ซองยอลนั่งลงข้างๆหลุมศพของมยองซูหลังจากได้รู้มาจากโฮวอนว่าผู้ชายที่ถูกเขาทอดทิ้งให้ไม่มีตัวตนมานานถึงสองปีรอเขาอยู่ที่ไหน ซองยอลก็ตรงมาที่นี่ในทันที มือเรียวลูบลงไปบนแผ่นหินที่สลักชื่อของเจ้าของร่างอย่างแผ่วเบาๆ

 

" มยองซู ฉันมาแล้ว ขอโทษนะที่ฉันมาหานายช้าตั้งสองปี ขอโทษนะที่ฉันลืมความทรงจำระหว่างเราไป นายคงจะเจ็บปวด อ้างว้างและโดดเดี่ยวมากใช่ไหม "

 

" ฉันมาแล้ว ฉันจะไม่ลืมนาย ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหนอีกแล้ว "

 

" รอฉันนะ รอฉันก่อน เมื่อถึงเวลาฉันจะไปอยู่กับนาย "

 

 " อย่าโกรธฉันที่ฉันจะไปหานายช้า ฉันต้องมีชีวิตอยู่ ฉันยังทิ้งพี่โฮวอนไปหานายตอนนี้ไม่ได้ นายเข้าใจฉันใช่ไหม มยองซู "

 

เหมือนคนที่ถูกกล่าวถึงรับรู้ต่อคำพูดมากมายเหล่านั้น ลมวูบใหญ่พัดเข้ามาปะทะเข้ากับร่างบางของซองยอลก่อนจะหยุดนิ่งไป

 

 " ขอบใจนะคิมมยองซูที่รักฉัน "